ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้ามาชมเว็บบล็อกนี้นะค่ะ...

ตัวช่วยค้นหา

ภาระงานของนักเรียน

กิจกรรม
1. นักเรียนสมัคร E-mail เป็นของตนเอง
2. นักเรียนส่งจดหมายถึงครูทางอินเทอร์เน็ต โดยตอบคำถาม 3 ข้อ คือ
- นักเรียนสมัคร E-mail ที่ไหน
- นักเรียนสมัคร E-mail ด้วยตนเองหรือมีเพื่อนช่วย
- นักเรียนมีความยุ่งยากหรือสนุกสนานในการส่ง
3. นักเรียนนำเสนอ E-mail Address จาก Web site ที่สมัครว่าคุณสมบัติเป็นอย่างไร เก็บข้อมูลได้มากน้อยเพื่ออะไร
นำเสนอหน้าชั้นเรียน
แล้วส่งมาที่เมล์ของครู

Muai10000@hotmail.com

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ


ยินดีต้อนรับนักเรียนเข้าสู่เว็บไซต์ของครูจิตติมา จ้า

เชิญอ่านหน่อย

หากโลกแตก สิ่งสุดท้ายที่คุณอยากทำคือ… ?
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
หนังสือพิมพ์ข่าวสด หลังองค์กรวิจัยนิวเคลียร์ (European Organization for Nuclear Research) แห่งยุโรป หรือ เซิร์น (CERN) ประกาศว่าจะดำเนินการทดลองครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก เพื่อถอดรหัสของโลกเชิงกายภาพ และไขปัญหาว่าเอกภพประกอบขึ้นด้วยอะไร รวมถึงค้นหาคำตอบว่า จักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยการทดลองดังกล่าว จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ บริเวณพรมแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส แถบนครเจนีวา ซึ่งได้มีการสร้างอุโมงค์ขนาดยักษ์ขดเป็นวงกลมยาว 18 ไมล์ ลึก 300 ฟุต และทำการหย่อนเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคขนาดใหญ่ หรือ Large Haldron Collider (LHC) ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 19 ปี ลงไป ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อวนใต้ดิน ความยาวประมาณ 27 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 175 เมตร ทดลองเร่งความเร็วอนุภาคด้วยแม่เหล็กนับร้อยๆ ตัว จากคนละด้านของท่อ ให้อนุภาคโปรตอนวิ่งเข้าชนกัน ด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง ซึ่งเป็นเหมือนการจำลองการเกิดบิ๊กแบงนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนเกิดความวิตกกังวลว่า อาจก่อให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่กลืนพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกหายไปทั้งหมด ขณะที่ "เซิร์น" ออกมาโต้ว่า ไม่มีทางที่หายนะจะเกิดขึ้นกับโลกแน่นอน เพราะการเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี เป็นการเร่งให้อนุภาคชนกันก็จริง แต่การชนกันของ "อนุภาคโปรตอน" ชนกันที่ระดับใกล้ความเร็วแสงนี้ มีพลังน้อยกว่าอนุภาคที่ชนกันในธรรมชาติเป็นอย่างมาก และหากการชนกันของอนุภาคทำให้โลกหายนะแล้ว การชนกันของอนุภาคในธรรมชาติของโลก ที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าหมื่นล้านปี นับตั้งแต่เกิดบิ๊กแบงก์เมื่อ 13,700 ล้านปีก่อน ก็จะทำให้โลกวินาศไปนานแล้ว นอกจากนี้ รังสีคอสมิกที่มาจากนอกโลก อันเกิดจากการชนกันของอนุภาค จนเกิดพลังงานที่สูงกว่าเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีมาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้เกิดผลร้ายแก่โลกแต่อย่างใด อูย... คิดแล้วก็ยังหวั่นๆ ว่าไหมคะ เอ... แล้วถ้าหาก (สมมตินะคะ) โลกต้องแตกจริงๆ ทุกอย่างต้องดับสูญ สิ่งสุดท้ายที่เพื่อนๆ อยากทำที่สุดคืออะไร

หมวยกับที่ต่างๆ

06 กันยายน 2551

7 ท่าเพิ่มพลังหัวใจ

ด้วยสภาวะแวดล้อมที่ตึงเครียดมากขึ้น การออกกำลังกายน้อยลง ทำให้โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในอันดับต้นๆ ของคนไทย วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุดคือการออกกำลังแบบต่อเนื่อง (ออกกำลังกายให้รู้สึกเหนื่อยแต่ยังพูดคุยได้) นอกจากการวิ่ง ว่ายน้ำ และขี่จักรยานแล้ว การบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายยังเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้หัวใจคุณแข็งแรงขึ้น แถมยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ถึงร้อยละ10 ไขมันลดลง และกล้ามเนื้อกระชับ
ก่อนออกกำลังกายควรยืดหยุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที และออกกำลังครั้งละ 30 นาทีเป็นอย่าง น้อย ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะเป็นการออกกำลังกายที่มีผลดีต่อหัวใจคุณมากที่สุด
1. ท่านั่งพิงกำแพง
ยืนเอนหลังพิงกำแพง โดยให้เท้าทั้งสองข้างห่างจากกำแพงพอประมาณ ค่อยๆ ย่อตัวลงช้าๆ เหมือนกำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้ จนหัวเข่าทำมุมตั้งฉากและขยับเท้าให้พอดีเพื่อไม่ให้หัวเข่ายื่นเลยนิ้วเท้า หลังตรงพิงกำแพงค้างไว้ 20-30วินาที
2. ท่ายกขาด้านนอก
ใช้เบาะหรือผ้าปูพื้นเพื่อกันลื่น จากนั้นนอนตะแคงด้านซ้าย ใช้มือซ้ายรองศีรษะไว้ วางมือขวายันพื้นด้านหน้าเพื่อการทรงตัว เกร็งกล้ามเนื้อท้องจากนั้นยกขาขวาขึ้น 45 องศาแล้ววางลง พยายามให้สะโพกด้านบนและล่างเป็นแนวเดียวกัน อย่าให้ตัวเอนขณะยกขา ทำ 8-12 ครั้ง หรือเท่าที่ทำได้ ทำสลับอีกข้าง
3. ท่ายกขาด้านใน
นอนตะแคงซ้ายเช่นเดียวกับท่าที่ 2 จากนั้นเหยียดขาซ้ายให้ตรง ไขว้ขาขวามาด้านหน้าขาซ้าย จากนั้นใช้มือขวาจับข้อเท้าขวาไว้ เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องแล้วยกขาซ้ายขึ้นประมาณ30-45 องศา หรือเท่าที่ทำได้แล้ววางลง ทำอย่างช้าๆ จำนวน 8-12 ครั้ง ทำสลับอีกข้าง
4. ท่าวิดพื้นประยุกต์
เริ่มจากนอนคว่ำ วางมือทั้งสองข้างลำตัว บริเวณหน้าอกให้กว้างกว่าไหล่เล็กน้อย ยกปลายเท้าทั้งสองข้างขึ้นโดยให้หัวเข่าทั้งสองข้างแตะพื้น หายใจเข้าลึกๆ จากนั้นหายใจออกค่อยๆเหยียดแขนขึ้นเพื่อยกลำตัว หายใจเข้าลดลำตัวลงให้ขนานกับพื้น พยายามให้หลังตรงขณะทำท่า หากไม่ถนัดสามารถวางปลายเท้าลงกับพื้นได้ ทำ 5-12 ครั้ง ท่านี้ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับหลังควรปรึกษาแพทย์
5. ท่ายืดสะโพก
เริ่มจากคุกเข่า วางข้อศอกกับพื้นให้แขนตั้งฉาก จากนั้นยกขาขวาขึ้นช้าๆ งอเข่าทำมุม 90 องศาโดยหงายฝ่าเท้าขึ้นไปทางเพดาน แล้วค่อยๆ ลดขาลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำข้างละ 8-12 ครั้ง
6. ท่าเกร็งหน้าท้อง
นอนหงาย มือทั้งสองข้างประสานไว้ใต้ศีรษะ จากนั้นค่อยๆยกขาและสะโพกขึ้น แล้วงอเข่าให้ตั้งฉากกับพื้นค้างไว้ ยกศีรษะหน้าอกและไหล่ขึ้นช้าๆ พยายามให้ต้นขาตรงไม่เอนไปมา จากนั้นค่อยๆ วางศีรษะและขาลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำ8-12 ครั้ง
7. ท่าซูเปอร์แมน นอนคว่ำยืดแขนทั้งสองข้างไปด้านหน้า สะโพกราบกับพื้น จากนั้นเกร็งหน้าท้องยกแขนขวาและขาซ้ายขึ้นพร้อมๆกันลดลง แล้วยกแขนซ้ายและขาขวาขึ้น วางลงทำสลับกันไปมา 8-12 ครั้ง จากนั้นหยุดพักเพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายร่างกายอีก 5 – 10 นาที
Tips ท่าเหล่านี้นอกจะช่วยหัวใจคุณแข็งแรงแล้วยังมีประโยชน์ต่อไหล่ หลัง และขาด้วย การยืด งอ ข้อและกล้ามเนื้อต่างๆ เช่น ไทเก็ก จี้กง โยคะ เป็นการออกกำลังที่เหมาะกับผู้สูงอายุ การเดินขึ้นลงบันไดโดยไม่ใช้ลิฟต์จะช่วยให้ร่างกายและหัวใจของคุณแข็งแรงขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น: